จันทร์ - ศุกร์9.00 - 17.30 น.
ที่ตั้งสำนักงาน125/55 ซอยวิภาวดีรังสิต 60 แยก 12 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ

DGM ตอนที่ 8: การวัดความสำเร็จของธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance)

การวัดความสำเร็จของธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance)

การดำเนินการธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance – DG) อย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ต้องอาศัยการวางแผนและการดำเนินงานที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องมีการวัดผลความสำเร็จของการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง การกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPIs) ที่ชัดเจน และการปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่องตามผลการวัดจะช่วยให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายในการจัดการข้อมูลและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

 

 ตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPIs)

การกำหนด KPIs ที่เหมาะสมสำหรับ Data Governance เป็นสิ่งสำคัญในการวัดประสิทธิภาพและความสำเร็จของการดำเนินงาน การวัดผลเหล่านี้ช่วยให้องค์กรสามารถระบุจุดแข็งและจุดอ่อนของกระบวนการ Data Governance และปรับปรุงการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง

  1. คะแนนคุณภาพข้อมูล (Data Quality Score) คะแนนคุณภาพข้อมูลเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญสำหรับการประเมินความถูกต้อง ครบถ้วน และทันสมัยของข้อมูลที่ใช้งานในองค์กร คะแนนนี้สามารถคำนวณได้จากการตรวจสอบข้อมูลที่มีอยู่ในระบบ และการประเมินคุณภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ความถูกต้องของข้อมูล (Accuracy), ความครบถ้วนของข้อมูล (Completeness), และการอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน (Timeliness)
  2. อัตราการปฏิบัติตามข้อกำหนด (Compliance Rate) การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงและรักษาชื่อเสียงขององค์กร อัตราการปฏิบัติตามข้อกำหนดสามารถวัดได้จากจำนวนครั้งที่องค์กรปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย เช่น GDPR, PDPA หรือมาตรฐานอุตสาหกรรมอื่น ๆ อัตราการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่สูงแสดงถึงการดำเนินการ Data Governance ที่มีประสิทธิภาพและการปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัด
  3. การนำไปใช้ของผู้ใช้ (User Adoption Rate) การนำไปใช้ของผู้ใช้เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินว่าผู้ใช้ในองค์กรได้รับประโยชน์จากการดำเนินการ Data Governance หรือไม่ อัตราการนำไปใช้ของผู้ใช้สามารถวัดได้จากจำนวนผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมในการใช้เครื่องมือ Data Governance และการปฏิบัติตามนโยบายที่กำหนดไว้ หากผู้ใช้ในองค์กรมีการนำไปใช้และปฏิบัติตามอย่างสม่ำเสมอ แสดงว่ากระบวนการ Data Governance ได้รับการยอมรับและประสบความสำเร็จ
  4. ความถี่ในการเกิดข้อผิดพลาดข้อมูล (Data Error Rate) ตัวชี้วัดนี้วัดจากจำนวนข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในข้อมูลในช่วงเวลาที่กำหนด ความถี่ในการเกิดข้อผิดพลาดที่ต่ำแสดงถึงการมีมาตรการควบคุมคุณภาพข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ การลดจำนวนข้อผิดพลาดข้อมูลเป็นเป้าหมายสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
  5. ผลกระทบจากเหตุการณ์ละเมิดข้อมูล (Impact of Data Breaches) การวัดผลกระทบจากเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลที่เกิดขึ้น เช่น จำนวนข้อมูลที่รั่วไหล หรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูและจัดการกับเหตุการณ์เหล่านี้ สามารถช่วยให้องค์กรประเมินความเสี่ยงและปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยในการจัดการข้อมูลได้

 

การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ผลการวัดจาก KPIs ไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อประเมินความสำเร็จของการดำเนินการ Data Governance ในปัจจุบัน แต่ยังใช้เป็นเครื่องมือในการปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่อง การวิเคราะห์ผลการวัดช่วยให้องค์กรสามารถระบุพื้นที่ที่ต้องปรับปรุงและดำเนินการแก้ไขได้อย่างทันท่วงที

  1. การทบทวนและปรับปรุงนโยบายข้อมูล (Policy Review and Enhancement) เมื่อมีการตรวจพบว่าคะแนน KPIs ใดที่ต่ำหรือมีความเสี่ยงสูง องค์กรควรทบทวนและปรับปรุงนโยบายข้อมูลที่เกี่ยวข้อง การปรับปรุงนโยบายให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงและการพัฒนาในเทคโนโลยีจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการ Data Governance
  2. การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร (Training and Development) หากพบว่าการนำไปใช้ของผู้ใช้ต่ำหรือมีข้อผิดพลาดข้อมูลเกิดขึ้นบ่อยครั้ง การฝึกอบรมและการพัฒนาบุคลากรเป็นวิธีที่ดีในการแก้ไขปัญหา การเพิ่มพูนทักษะและความรู้ของผู้ใช้เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลและการปฏิบัติตามนโยบาย Data Governance จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสอดคล้องในการดำเนินงาน
  3. การประเมินผลอย่างต่อเนื่อง (Continuous Monitoring and Feedback) การประเมินผลการดำเนินการ Data Governance อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของกระบวนการ การใช้ระบบติดตามและรายงานผลแบบเรียลไทม์ช่วยให้องค์กรสามารถตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

 

กรณีศึกษาและตัวอย่าง

การดำเนินการ Data Governance ที่ประสบความสำเร็จ และวิธีที่องค์กรต่าง ๆ ใช้ KPIs ในการวัดความสำเร็จและปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่อง

  1. ธนาคารชั้นนำในยุโรปแห่งหนึ่งในยุโรปได้นำแพลตฟอร์ม Data Governance มาใช้ในการจัดการข้อมูลลูกค้า โดยกำหนด KPIs สำหรับการควบคุมคุณภาพข้อมูล เช่น ความถูกต้องของข้อมูลลูกค้า และอัตราการปฏิบัติตามข้อกำหนด GDPR ผลจากการติดตาม KPIs ทำให้ธนาคารสามารถลดความเสี่ยงจากการละเมิดข้อมูลและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างมาก
  2. บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำรายหนึ่งในสหรัฐอเมริกาได้ใช้ระบบ Data Governance ในการจัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์ โดยมี KPIs หลักในการวัดความสำเร็จคืออัตราการนำไปใช้ของผู้ใช้ภายในและความถี่ในการเกิดข้อผิดพลาดข้อมูล บริษัทได้ใช้ผลการวัดเหล่านี้ในการปรับปรุงกระบวนการและพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คุณภาพข้อมูลและประสิทธิภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดีขึ้นอย่างชัดเจน
  3. บริษัทประกันภัยในเอเชีย บริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งในเอเชียได้ดำเนินการ Data Governance โดยใช้ KPIs ในการวัดอัตราการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย และคะแนนคุณภาพข้อมูลจากการประเมินภายใน การวัดผลนี้ช่วยให้บริษัทสามารถระบุปัญหาและปรับปรุงการปฏิบัติงานได้อย่างทันท่วงที ทำให้สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายได้อย่างเต็มที่และเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาด